สำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ จะมีแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองให้กรอกอยู่ไม่กี่อย่าง (immigration card) เริ่มตั้งแต่ ใบ ตม. ของไทย (Thai immigration bureau) ที่ได้มาพร้อมกับใบบอร์ดดิ้งพาสเมื่อเช็คอินที่เคาเตอร์สายการบิน ใช้สำหรับเป็นหลักฐานยืนยันตัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เมื่อออกนอกประเทศ และกลับเข้าประเทศ
และมีแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมือง (immigration card) สำหรับเข้าประเทศปลายทาง ที่แจกบนเครื่องบิน เพื่อเป็นหลักฐานการเข้าประเทศนั้นอย่างถูกต้อง จะเป็นหลักสากลแบบนี้ไปทุกประเทศ การกรอกแบบฟอร์มก็จะมีลักษณะไม่ต่างกันนัก
ประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ยกเว้นวีซ่าให้แก่คนไทย การท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็คึกคักขึ้นมาเยอะ ฝันของหลาย ๆ คนที่หวังว่าสักครั้งจะไปเยือนญี่ปุ่น หรือแม้แต่คนที่เคยไปมาแล้ว แล้วอยากกลับไปเที่ยวอีกก็ง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่ต้องขอวีซ่าเยอะเลย
เรื่องการซื้อตั๋วเครื่องบิน การจองที่พัก และแผนเดินทาง คงไม่ต้องบอกอะไรมาก เพราะมีเยอะแยะมากมายหลายเส้นทาง แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น ทุกคนต้องผ่านด่าน ตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่นซะก่อน และเจ้าใบขอเข้าเมือง กระดาษแผ่นเล็ก ๆ นี้แหละ ที่ทุกคนจะต้องได้รับแจกมาตอนที่อยู่บนเครื่องบิน เตรียมปากกา และข้อมูลที่ต้องใช้ให้พร้อมนะครับ ไปดูกันว่าหน้าตา ใบขอเข้าเมือง ประเทศญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง
นอกจากข้อมูลส่วนตัวของเราที่ต้องเขียนลงไปแล้ว ยังมีที่อยู๋โรงแรมที่เราพำนักด้วย หากแผนเดินทางเราไม่ได้พักทีเดียวตลอดทริป ก็ให้เขียนที่อยู่ของโรงแรมที่แรกที่เราจะพักลงไปครับ และใส่เบอร์โทรของโรงแรมนั้นไปด้วย
ช่องที่ถามจุดประสงค์การเดินทาง ถ้ามาเที่ยวก็ติ้กไปที่ Tourism ครับ
ด้านหลังก็เป็นคำถาม เชิญชวนให้เข้าไปนั่งเล่นนั่งลุ้นในห้องเย็น แต่ถ้าอยากไปเที่ยวแล้วให้ตอบ NO ทุกข้อ เลยครับ คำถามแต่ละข้อถามง่าย ๆ ว่า
- เคยโดนปฏิเสธการเข้าญี่ปุ่น หรือเคยโดนเนรเทศมั้ย
- เคยก่อคดีต้องโทษในญี่ปุ่น หรือประเทศอื่นมั้ย
- พกพายาเสพติด อาวุธ วัตถุระเบิด สิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศมารึเปล่า
- พกเงินติดตัวมาเท่าไหร่ อันนี้ก็ให้ใส่จำนวนเงินลงไปครับ ระบุด้วยนะว่าเป็น เยน หรือ ดอลล่า
หลังจากเขียนในใบขอเข้าเมืองเสร็จละ ก็ถึงคิวเขียนใบศุลกากร Customs Declaration
ก็ยังเขียนรายละเอียดตัวเราเหมือนเดิม ส่วนคำถามในแต่ละหมวด โดยหมวดที่ 1 จะถามถึงสิ่งที่เรานำเข้ามา
- นำสิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศมามั้ย
- มีสินค้าปลอดภาษี (duty free) มาด้วยรึเปล่า
- นำสินค้าตัวอย่าง หรือสินค้าสำหรับขายมาด้วยมั้ย
- มีใครฝากหิ้วของเข้าประเทศรึเปล่า
ถ้าไม่ตรงใน 4 ช้อที่ถามไปก็ตอบ NO ให้หมดครับ แต่ถ้ามีข้อใตดอบ YES ก็ต้องตามไปต่อกันที่หน้าหลัง
ในหมวดที่ 2 ถามว่าเราเอาเงินเข้าประเทศเกิน 1,000,000 (หนึ่งล้าน) เยนรึเปล่า ถ้าเกินก็ต้องไปอธิบายต่อว่าทำไมพกเงินมาเยอะขนาดนั้น ถ้าไม่ถึงก็ตอบ NO
ในหมวดที่ 3 ถามว่า มีของ หรือสินค้าส่งตามมาอีกรึเปล่า ถ้าไม่มีก็ NO ไปครับ
เมื่อตอบคำถามหมดแล้วก็เซ็นต์ชื่อจบขั้นตอนการเขียนใบศุลกากร ใบนี้จะยื่นให้เจ้าหน้าที่หลังจากได้รับกระเป๋าเดินทางมาแล้วครับ เป็นอันจบพิธีการเข้าเมืองญี่ปุ่น จากนั้นได้เวลาไปเที่ยวตามฝันแล้วครับ
เห็นมั้ยครับว่า การเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็น หรือน่ากลัวอะไรเลย หากเราผู้เดินทางมีความบริสุทธิ์ใจ ไม่คิดทำผิดกฏหมาย เขาก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราด้วยความเต็มใจ