น้องหมีคุมะมอน (Kumamon) มาทักทายก็รู้เลยว่า เรามาถึงจังหวัด คุมาโมโต้ (Kumamoto) แล้วครับ จากฮากะตะ (Hakata) มาที่เมืองนี้ใช้เวลาไม่นานเลย นั่งรถไฟใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เที่ยวละ ใครที่มีเวลาไม่มากก็สามารถเที่ยวแบบวันเดียว เช้าเย็นกลับได้ หรือจะพักค้างคืน จะได้เดินตะลุยราตรีดูแสงสีในเมืองก็เข้าท่า
เที่ยวภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ครั้งนี้ของผมก็มีแผนค้างที่คุมาโมโต้ (Kumamoto) ด้วยเช่นกัน เพราะจะได้ไม่ต้องพะวงเรื่องรถไฟขากลับหากต้องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ และคุมาโมโต้เป็นเมืองใหญ่ ก็เลยอยากใช้เวลาเดินเที่ยวทั้งกลางวันกลางคืนให้คุ้ม
ในเมื่อตัดสินใจละว่าจะพักค้างคืนที่เมืองนี้ ก็ต้องหาที่พักที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ และสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง และต้องสะดวกทั้งการเดิน และการโดยสารรถราง (Tram) ใช่ครับ ที่เมืองคุมาโมโต้ไม่มีรถไฟใต้ดิน แต่ใช้ระบบรถรางบนดินซึ่งก็สะดวกมาก เพราะผ่านจุดท่องเที่ยวในเมือง แถมค่าโดยสารไม่แพงด้วย คือ 150 เยนตลอดสาย หรือจะซื้อเป็นตั๋ววัน One Day Pass ก็ได้
รถราง (Tram) จะมีแค่ 2 สายวิ่งวนกันโดยมีจุดเริ่มต้นที่สถานีรถไฟคุมาโมโต้ (Kumamoto station)
ผมยังใช้ google map นำทางเหมือนเดิมครับ ดูจากพิกัดละ ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่นัก เดินเป็นเส้นตรงไปเรื่อย ๆ
Dyeing and Hostel Nakashimaya คือที่พักที่ผมเลือกและจองผ่าน อโกด้า เหมือนทุกครั้ง ที่นี่ผมจองเป็นห้องแบบ 4 ที่นอน (male dormitory) ใช้เวลาเดินจากสถานีคุมาโมโต้มาถึงที่นี่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือจะนั่งรถรางมาก็ได้ แล้วเดินเข้าซอยอีกนิดเท่านั้น ดูจากภายนอกแล้ว ต้องสังเกตุหน่อยครับ ไม่งั้นอาจเดินเลย เพราะป้ายที่พักไม่ได้โดดเด่นอะไร
มาดูกันดีกว่าครับว่าที่ Dyeing and Hostel Nakashimaya มีอะไรบ้าง ถ่ายรูปมาเยอะเลย
เข้ามาภายในก็เจอบรรยากาศแบบญี่ปุ่นเลยครับ เป็นธรรมเนียมเช่นเคยที่ต้องเปลี่ยนรองเท้าก่อนเสมอ ทุกอย่างที่นี่ถูกจัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อยจริง ๆ ถอดรองเท้าแล้วก็ถือเข้ามาเก็บในตู้เก็บใต้บันไดเลย
ตรงเคาเตอร์เช็คอิน จะมีกล่องคืนกุญแจสำหรับผู้ที่จะเช็คเอ้าท์ โดยไม่จำเป็นต้องรอผู้ดูแลที่พัก หรือในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็สามารถกดอินเตอร์คอมติดต่อผู้ดูแลที่พักได้เช่นกัน เพราะเขาก็พักในตึกนี้
การเช็คอินก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ให้ดูใบจองที่ปริ้นมา พร้อมพาสปอร์ต เท่านี้ก็เรียบร้อย จากนั้นผู้ดูแลก็จะพาทัวร์สถานที่เล็กน้อย ว่าที่นี่มีอะไรบ้าง
ได้กุญแจมาแล้วครับ หลังจากเช็คอิน ลูกกุญแจนั้นมีไว้เพื่อล็อคกับแม่กุญแจกล่องใส่ของนะครับ ส่วนประตูห้องไม่มีที่ล็อค เป็นประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่นเท่านั้น
หน้าตากุญแจล็อกกล่องเก็บของมีค่าครับ สวยดี ดูแข็งแรง ไม่รู้บ้านเรามีขายมั้ย
พาทัวร์กันต่อครับ ยังอยู่กันที่ชั้น 1 จะเป็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น ดูแล้วของเต็มไปหมดเลย มีตู้ขายอาหารแบบหยอดเหรียญด้วย มีตู้โชว์รองเท้า อะไรต่อมิอะไรอยู่ในห้องนี้หมด
น่าจะเป็น converse รุ่นพิเศษ ที่เอามาโชว์ มีรุ่นน้องหมีคุมะมอนด้วยล่ะ
เป็นห้องที่ใช้พื้นที่ได้คุ้มมาก ยังกะห้องเก็บของ หรือห้องสารพัดประโยชน์ มีทางเดินแคบ ๆ กับอุปกรณ์ครัว
จบจากชั้น 1 ก็พาชมชั้น 2 กันดีกว่าครับ … เกือบลืม ห้องสุขาชั้น 1 นี้จะเป็นแบบสุขภัณฑ์แบบสากลครับ เขาติดป้ายว่าเป็น Western Toilet
ขึ้นมาถึงชั้น 2 ก็คือชั้นที่เป็นห้องนอนแล้วครับ ก็จะพบการตกแต่งตามทางเดิน
มีป้ายบอกไว้ครับว่าชั้นอะไร เป็นอะไร ห้องพักทั้งหมดอยู่ชั้น 2 ที่เดียว ดาดฟ้าขึ้นไปนั่งเล่นชมวิวเมืองได้
บนชั้น 2 นี้จะมีห้องซักผ้า และห้องสุขาแบบสากล และห้องสุขาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้ให้ใช้
มาดูในส่วนห้องอาบน้ำกันครับ เป็นห้องรวมไม่แยกชายหญิง
ใครที่ไม่มีสบู่ แชมพู ยาสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ที่นี้ติดตั้งตู้ขายหยอดเหรียญไว้บริการด้วยล่ะ
ห้องอาบน้ำ ไม่มีอะไรนอกจากฝักบัว ไม่มีสบู่แชมพูฟรี
จบจากห้องอาบน้ำแล้ว พาทัวร์ชั้นดาดฟ้ากันดีกว่าครับ เดินขึ้นบันไดไปเรื่อย ๆ ก็เจอประตูสู่ภายนอกละ
จากดาดฟ้า สามารถมองเห็น Kumamoto Castle ได้ลิบ ๆ ด้วยครับ
ระยะทางไม่ไกลจากที่พักนัก เดินไปได้ครับ ผ่านย่านช้อปปิ้งด้วย
จากดาดฟ้า เราก็กลับลงมาที่ชั้น 2 กันครับ จะพาไปดูห้องนอนกันล่ะ ที่ผมจองไว้เป็นห้องเตียงรวม 4 ที่นอน ประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่นล็อคไม่ได้ เปิดมาก็เป็นแบบนี้ครับ คือ ไม่มีเตียง แต่เป็นที่นอนปูบนเสื่อตาตามิ พร้อมกล่องเก็บของมีค่าของแต่ละคน เผอิญว่าคืนที่ผมอยู่ ไม่มีใครอีกแล้ว ได้ครองห้องคนเดียวเลย ประตูที่เห็นในรูปถูกปิดล็อคไว้ เพื่อกั้นเป็นอีกห้องนึง เข้าใจว่าน่าจะเป็นห้องนอนผู้หญิง เพราะได้ยินเสียงลอดมา ห้องแบบนี้ไม่เก็บเสียงครับ ใครเดินเข้าเดินออกข้างนอก จะได้ยิน
รู้สึกว่าฟูกนอนจะยวบไป นอนแล้วปวดหลัง สุดท้ายผมเลยปูผ้าห่มบนเสื่อตาตามิแทน นอนสบายกว่ากันเยอะเลย
มีบอกอีกครับว่าปิดไฟหากไม่มีใครอยู่ห้อง และบอกราคาผ้าเช็ดตัว กับ ยาสีฟัน แนะนำว่าเตรียมไปเองดีกว่าครับ
นามบัตรของที่พักครับ
จากที่ได้พัก Dyeing and Hostel Nakashimaya
- ระยะทางเดินจากสถานีคุมาโมโต้ ถึงที่พักนั้นค่อนข้างไกล เดินประมาณ 20 นาที แต่ถ้ามาด้วยรถรางก็แป้บเดียวเท่านั้น
- ทำเลของที่พัก เงียบสงบเพราะเข้ามาในซอยอีกที และต้องสังเกตุกันหน่อย ไม่งั้นได้เดินเลยแน่ ๆ
- สามารถเดินจากที่พักไปอาเขตแหล่งช้อปปิ้งได้ง่าย ๆ หรือจะเดินไปปราสาท Kumamoto Castle ก็ได้
- ในที่พักไม่มีล็อกเกอร์ให้ แต่มีกล่องใส่ของมีค่าล็อกกุญแจได้
- ไม่มีห้องฝากกระเป๋า หากจำเป็นต้องฝากก็วางไว้ข้าง ๆ เคาเตอร์เช็คอินได้เลย
- ผู้ดูแลที่พักสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีมาก
- ไม่มีสบู่ แชมพู ให้ใช้ฟรีนะครับ
- ห้องนอนไม่เก็บเสียง เสียงภายนอกดังเข้ามาในห้องได้
- ปลั้กไฟในห้องนอนมีน้อยมาก แนะนำว่าควรเตรียมปลั้กพ่วงมาด้วย
- มีมินิมาร์ตไม่ไกลจากที่พักเปิด 24 ชั่วโมง
- ขั้นตอนเช็คเอาท์ไม่ยุ่งยาก หากไม่เจอผู้ดูแลที่พักก็วางกุญแจใส่กล่องได้เลย