เคยมั้ยครับ อยากไปเที่ยวต่างประเทศ ทุกอย่างพร้อม แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือ ประเทศนั้นต้องใช้ ‘วีซ่า’ ฟังดูเหมือนน่ากลัวยังไงไม่รู้นะ ต้องไปค้นเอกสารต่าง ๆ ที่ยืนยันตัวตน ต้องไปขอหลักฐานการทำงาน ไหนจะเงินในบัญชีธนาคารอีก น้อยไปวีซ่าจะอนุมัติมั้ย แล้วต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมด้วย จากนั้นก็ต้องมาลุ้นกันอีก ว่าจะผ่านมั้ยนะ ถ้าไม่ผ่านจะเสียประวัติมั้ย โอ้ยยยยย เครียดจัง แล้วทำไม ‘วีซ่า’ ถึงได้สำคัญขนาดนี้ล่ะ
วีซ่า (Visa) เป็นหลักการเดียวกันของนานาประเทศทั่วโลก ที่ได้ถือปฏิบัติร่วมกันว่า ก่อนที่คนของประเทศหนึ่งจะเดินทางไปยังอีกประเทศหนึ่ง บุคคลที่จะเดินทางไปประเทศอื่นจะต้องขอวีซ่า เพื่อเข้าประเทศจากสถานฑูตของประเทศที่จะเดินทางไปเสียก่อน ซึ่งปลายทางของแต่ละประเทศ ก็จะมีเงื่อนไขและเอกสารหลักฐานประกอบการขอวีซ่าแตกต่างกันไป วีซ่านั้นมีทั้งแบบที่เป็นตรายางประทับ เป็นสติกเกอร์สัญลักษณ์ต่างๆ หรือเป็นใบเอกสารขนาดเล็กแนบติดมาในหน้าพาสปอร์ต โดยอายุของวีซ่านั้นจะมีแตกต่างกันไปตามแต่กฎระเบียบ และข้อตกลงระหว่างประเทศ
Visa on arrival คือการที่ไม่ต้องขอวีซ่าก่อนออกจากประเทศไทย แต่เมื่อถึงประเทศปลายทางก็ไปเข้าคิวในช่อง visa on arrival เพื่อทำ visa อาจจะจ่ายเงินหรือไม่ก็ได้แต่ส่วนมากต้องจ่าย จะมีเอกสารหรือแสตมป์บอกว่านีคือวีซ่า แล้วทำการตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ มักเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีสถานทูตต่างแดนและ ไม่มีปัญหาคนหลบหนีเข้าเมือง
แต่มีข้อยกเว้นสำหรับบางประเทศที่ได้ทำการตกลง โดยไม่ต้องขอวีซ่าระหว่างกันได้ หรือบางประเทศอาจยกเว้น โดยการอนุญาตให้คนบางสัญชาติเดินทางเข้าไปในประเทศได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าเลยก็ได้ อย่างเช่นประเทศไทย ก็ยกเว้นให้แก่คนสัญชาติของประเทศที่มีความเจริญ และมีฐานะค่อนข้างดี ที่เข้ามาเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศด้วยระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 30 วันเท่านั้น
แล้วอย่างนี้ถ้าเราไม่อยากจะเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้วุ่นวาย แล้วยังต้องมาลุ้นผลวีซ่าอีก ทางเลือกที่ดี ยังมีอีกหลายประเทศที่คนไทยไปเที่ยวได้โดยถือแค่พาสปอร์ตอย่างเดียวไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า เพียงแค่ทำตามเงื่อนไขการเข้าพำนักในประเทศนั้นโดยมีระยะเวลาจำกัดที่ 15 , 30 หรือ 90 วัน ก็นับว่าเพียงพอต่อการเดินทางท่องเที่ยวละ เราไปดูกันครับว่ามีประเทศไหนบ้าง
ประเทศที่อนุญาตให้พาสปอร์ตไทยอยู่ได้ 90 วัน
- อาร์เจนตินา (Argentina)
- บราซิล (Brazil)
- ชิลี (Chile)
- เกาหลีใต้ (South Korea)
- เปรู (Peru)
- เอกวาดอร์ (Ecuador)
- ปานามา (Panama)
ประเทศที่อนุญาตให้พาสปอร์ตไทยอยู่ได้ 30 วัน
- มาเลเซีย (Malaysia)
- ลาว (Lao)
- เวียดนาม (Vietnam)
- ฮ่องกง (Hong Kong)
- มาเก๊า (Macau)
- อินโดนีเซีย (Indonesia)
- มองโกเลีย (Mongolia)
- มัลดีฟส์ (The Maldives)
- เซเชลส์ (Seychelles)
- รัสเซีย (Russia)
- แอฟริกาใต้ (South Africa)
- สิงคโปร์ (Singapore)
- ตุรกี (Turkey)
ประเทศที่อนุญาตให้พาสปอร์ตไทยอยู่ได้ 21 วัน
- ฟิลิปปินส์ (The Philippines)
ประเทศที่อนุญาตให้พาสปอร์ตไทยอยู่ได้ 15 วัน
- ญี่ปุ่น (Japan)
ประเทศที่อนุญาตให้พาสปอร์ตไทยอยู่ได้ 14 วัน
- กัมพูชา (Cambodia)
- บรูไน (Brunei)
- บาห์เรน (Bahrain)
ข้อยกเว้นพิเศษ
ไต้หวัน (Taiwan)
ข้อยกเว้นพิเศษสำหรับวีซ่าไปไต้หวันที่ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ หากมีวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุของประเทศดังต่อไปนี้
- ออสเตรเลีย (Australia)
- นิวซีแลนด์ (New Zealand)
- แคนาดา (Canada)
- อเมริกา (USA)
- ญี่ปุ่น (Japan)
- กลุ่มยุโรป (Schengen) และอังกฤษ / สหราชอาณาจักร (UK)
วีซ่าของกลุ่มประเทศยุโรปหรือเชงเก้น วีซ่า (Schengen Visa)
เป็นประเภทวีซ่าของทวีปยุโรปที่ขอครั้งเดียวสามารถเดินทางไปได้หลายประเทศในทวีปยุโรป 25 ประเทศ ไม่รวมอังกฤษ โดยในแต่ละประเทศจะให้ระยะเวลาพำนักแตกต่างกันไป ฉะนั้นหากคิดจะเที่ยวหลายประเทศในยุโรปที่เป็นสมาชิกของวีซ่าประเทศนี้ ขอให้ไปขอวีซ่าจากประเทศที่คุณคิดจะไปเที่ยวนานที่สุด แต่หากไปเที่ยวโดยเฉลี่ยในเวลาเท่ากันทุกประเทศขอให้ไปขอวีซ่าจากประเทศที่คุณจะเดินทางเข้าไปเป็นประเทศแรก โดยจะมีระยะเวลาอนุญาตรวมกันได้ไม่เกิน 90 วัน และขอล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน
ประเทศในกลุ่มเชงเก้น วีซ่า มีดังนี้
- เบลเยี่ยม (Belgium)
- ฝรั่งเศส (France)
- เยอรมนี (Germany)
- กรีซ (Greece)
- อิตาลี (Italy)
- ลักเซมเบิร์ก (Luxemburg)
- เนเธอร์แลนด์ (The Netherlands)
- โปรตุเกส (Portugal)
- สเปน (Spain)
- ออสเตรีย (Austria)
- เดนมาร์ก (Denmark)
- ฟินแลนด์ (Finland)
- ไอซ์แลนด์ (Iceland)
- นอร์เวย์ (Norway)
- สวีเดน (Sweden)
- สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)
- เอสโตเนีย (Estonia)
- ฮังการี (Hungary)
- ลัตเวีย (Latvia)
- ลิทัวเนีย (Lithuania)
- มอลตา (Malta)
- โปแลนด์ (Poland)
- สโลวะเกีย (Slovakia)
- สโลวีเนีย (Slovenia)
- สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
- ลิเทนชไตน์ (Liechtenstein)