บาธ (BATH) เป็นเมืองที่เราเดินทางต่อ หลังจากที่แวะเที่ยวเมืองซาลส์บิวรี่ (Salisbury) เพื่อไปดู Stonehenge ในวันเดียวกัน ผมได้จองที่พักที่เมืองบาธไว้เรียบร้อยแล้ว โดยขึ้นรถไฟจากสถานี Salisbury ปลายทางที่สถานีบาธสปา (Bath Spa)
ซึ่งหากจะนั่งรถไฟตรงจากลอนดอนมาที่เมืองบาธรวดเดียว ก็สามารถทำได้โดยไปขึ้นรถไฟที่สถานี แพดดิงตัน (Paddington) ปลายทางสถานี บาธสปา (Bath Spa)
มารอรถไฟที่สถานี Salisbury เพื่อจะไป Bath แล้วครับ
บนรถไฟมีบริการขายขนม และ starbucks ด้วยล่ะ
ตอนแรกกะว่าจะหลับไปซะตื่นนึงบนรถ แต่แล้วก็ไม่ได้หลับเพราะวิวข้างทางสวยมาก หลับไม่ลงเลยครับ ใช้เวลาไม่นานรถไฟก็เทียบชานชาลาสถานีบาธสปา (Bath Spa) เรามาถึงเมืองบาธเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บรรยากาศสถานีบาธสปา (Bath Spa)
สถานีรถไฟในเมืองต่าง ๆ ของอังกฤษไม่ได้อยู่ไกลจากย่านชุมชนเลยครับ แค่เดินออกจากสถานีก็พร้อมเที่ยวได้เลย ที่บาธก็เหมือนกัน ตอนที่มาถึงแม้จะบ่ายแก่ ๆ แล้วก็ตามแต่เพราะยังเป็นฤดูซัมเมอร์ของที่นี่ ดวงอาทิตย์เลยต่อเวลาให้เราได้เดินเที่ยวสำรวจเมืองได้อีกพักใหญ่ ๆ แม้ร้านค้าจะเริ่มทยอยปิดแล้วก็ตาม
หน้าสถานีรถไฟ Bath Spa มีแท้กซี่บริการด้วยครับ แต่ดูจากยี่ห้อแล้ว ราคาน่าจะแรง
ด้วยความที่บาธ เป็นเมืองเล็ก แต่มีศักดิ์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจาก UNESCO และ ENGLISH HERITAGE เพราะเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเมืองหนึ่งในโลก โดยเฉพาะเรื่องสถาปัตยกรรมของชาวโรมัน และที่นี่เองมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่ถือว่าเป็นต้นกำเนิดสปาแห่งแรกในโลก คือ Roman Bath
ฝายกั้นน้ำรูปเกือกม้า แม่น้ำเอวอน (Avon River)
สวยงามจริง ๆ ครับ ฝายกั้นน้ำที่นี่
สะพานพัลต์นีย์ (Pulteney Bridge) หนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในโลก
นอกจาก Roman Bath จะเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชมแล้ว ที่บาธยังมี สะพานพัลต์นีย์ (Pulteney Bridge) ที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และยังเป็นสะพานเก่าแก่ไม่กี่แห่งในโลก ที่มีสิ่งปลูกสร้างเป็นร้านค้ายาวตลอดบนตัวสะพาน จะเรียกว่าเป็นสะพาน หรือห้องแถวดีเนี่ย
Anabelle’s เป็นบ้านอังกฤษที่ดัดแปลงเป็นที่พัก เราจองที่นี่ไว้
หลังจากเช็คอินที่ Anabelle’s เรียบร้อย ก็ได้เวลาออกเดินสำรวจเมืองกันแล้ว เมืองนี้เหมาะที่จะเดินเล่นมากครับ เพราะอากาศดีมาก เป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยหุบเขา เท่าที่สังเกตุเหมือนที่นี่ไม่มีรถเมล์ คนที่นี่ใช้รถส่วนตัว กับจักรยาน และการเดินกันเป็นส่วนใหญ่ ว่าแล้วก็เดินไปด้วยกันเลยครับ
ออกจากสถานีรถไฟ Bath Spa เดินมาก็เจอมุมนี้ครับ
เขาจอดรถกันริมถนนหน้าตึกกันแบบนี้ตลอดแนว
อาคารสองฝั่งยังกะฝาแฝดเลยครับ
ที่ลอนดอนมี Barclays Bike ที่บาธมี Bike in Bath
บ้านเมืองที่นี่เขาสวยมากเลย
ถึงจะเป็นเมืองเก่าและไกล แต่ไม่ล้าสมัยนะครับ ลอนดอนมีย่านช้อปปิ้ง ที่บาธก็มีเหมือนกัน
เดินมาเรื่อย ๆ ไม่รู้อยู่ตรงไหนละ เพลินกับบ้านเมืองนี้จริง ๆ
อาคารที่สร้างยาวเป็นครึ่งวงกลมนี้ คือ อาคาร The Royal Crescent
อาคารที่สร้างต่อกันเป็นวงกลม คล้ายวงเวียนเรียก The Circus
The Circus คือตึกแถว 3 ตึกที่สร้างเรียงต่อกันเป็นวงกลม
ไม่ต้องกลัวว่าจะหลง เพราะจะมีแผนที่แบบนี้ตามแยกต่าง ๆ ให้เรารู้ว่าตอนนี้อยู่ไหน ถ้าดูแผนที่เป็นยิ่งสบายเลยครับ
เดินมาเรื่อย ๆ ก็มาเจอสวนสาธารณะ Royal Victoria Park
เดินเล่นในสวนสาธารณะ Royal Victoria Park ที่นี่กว้างมากครับ
ขนาดเป็นสวนสาธารณธยังมีรถมาจอดกันยาวววววววววว
เดินต่อไปเรื่อย ๆ มาอยู่ตรงไหนแล้วก็ไม่รู้ ฟ้าใกล้มืดแล้ว ที่จริงตอนนี้คือเวลา 20:00 ของที่นั่น
หลังจากที่ได้ใช้เวลาตั้งแต่มาถึงเมืองบาธ ไปหลายชั่วโมงในการเดินสำรวจเมืองช่วงเย็นถึงค่ำ พบว่าเป็นเมืองที่เงียบสงบมาก อาจเพราะเป็นเวลาปิดทำการของห้างร้านไปแล้ว แต่ด้วยท้องฟ้ายังไม่มืด ก็เลยยังเดินได้เรื่อย ๆ รู้สึกปลอดภัย แต่กว่าจะหาทางกลับมาที่พักได้ก็ต้องดูแผนที่เมืองกันหลายรอบเลย
คืนนี้นอนพักเอาแรกก่อน พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ จะออกเที่ยวเมืองตั้งแต่เช้าเลย
สัญลักษณ์ของ World Heritage เป็นเครื่องรับรองว่าเป็นมรดกโลกครับ
วันหยุดนี้ ในเมืองคึกคักมาก คนมาจากไหนกัน ผิดกับเมื่อวานเลย
มีซุ้มขายผลไม้ตามทางด้วย
ซุ้มขายดอกไม้ตรงนี้สวยมาก ทำเลดี อยู่ใกล้ ๆ แผนที่เมืองและร้านแบรนด์ดัง
Ben’s Cookies ก็มีสาขาที่บาธด้วย ถ้าใครมาต้องแวะครับ อร่อยดี
ฝรั่งนี้ชอบแดดจริง ๆ ม้านั่งไม่ว่างเลย
บรรยากาศย่านช้อปปิ้งกลางเมือง
สถานที่สำคัญอย่าง Roman Bath ต้องซื้อบัตรเข้าชม มีเจ้าหน้าอยู่หน้าทางเข้า
ดนตรีเปิดหมวก แต่ละคนนี่มืออาชีพทั้งนั้น ยิ่งทำให้เมืองมีสีสันมากขึ้น
เจอรถขนเบียร์สิงห์ด้วย Imported from THAILAND
ตามตรอกซอกซอย ถังแดง ๆ นี้เป็นถังขยะของร้านอาหารครับ
หลบมานั่งพักจิบกาแฟในคาเฟ่ Time Out มีโอบาม่า กับ ควีนอลิสเบตที่ 2 ต้อนรับ ร้านนี้เค้กอร่อยมากครับ แนะนำ ๆ
เดินต่อไปที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ สะพาน Pulteney Bridge
สะพาน Pulteney Bridge ส่วนโบสถ์ที่อยู่ไกล ๆ คือ St.Michael Church
มีรถบัส Bath Hop on Hop off บริการด้วย ในภาพคือวิหาร Bath Abbey Tower
หลังจากเช็คเอาท์จากที่พัก ก็ได้เวลาเดินทางกลับลอนดอนแล้วครับ
อีกภาพก่อนจากลาครับ ไว้มีโอกาสจะกลับมาเที่ยวใหม่
นั่งรถไฟยิงยาวจาก Bath ไป London เลยครับ ค่าโดยสารแพงไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงสองชั่วโมง ก็มาถึงสถานีแพดดิงตัน Paddington แล้วครับ
สำหรับใครที่มาเที่ยวประเทศอังกฤษ ขอแนะนำให้มาเที่ยวที่เมืองบาธ (BATH) แล้วจะหลงรักเมืองเล็กในหุบเขาแห่งนี้ ถ้าให้ดีควรพักค้างคืนอย่างน้อย ๆ ก็ 1 คืน จะได้ไม่ต้องรีบไปรีบกลับ เพราะจะไม่คุ้มค่ารถไฟ เที่ยวชิล ๆ เดินชมเมืองไปเรื่อย ๆ อากาศดีดีแบบนี้รับรองว่า มาอังกฤษคราวหน้าต้องอยากกลับมาอีกแน่ ๆ