เราได้มีโอกาส Backpack to London UK ครับ
ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่อง ตม. มาพอให้หวาดหวั่น
วันที่เดินทางไปถึงสนามบิน Heathrow เจ้าหน้าที่ ตม. ถามว่ามีแผนเที่ยวไหนบ้าง
เลยตอบไปทันทีว่า Stonehenge เจ้าหน้าที่ ตม.ยิ้มใหญ่เลย
แล้วก็ปั้ม visa ให้พร้อม welcome to UK
เลยจะมาเล่าเรื่อง Stonehenge และวิธีเดินทางด้วยตัวเองกัน
เราเริ่มเดินทางโดยรถไฟ National Rail ขึ้นจากสถานี London Waterloo รถไฟเขานั่งสบายมากเลย
แล่นเร็วและนิ่งมาก ปลายทางที่สถานีเมือง Salisbury
มาถึงสถานีเมือง Salisbury สวย เงียบสงบ
ออกจากสถานี เราต้องไปใช้บริการรถ coach Stonehenge ที่จอดรอด้านนอก
ตอนที่ไปถึงก็บ่ายกว่า ๆ อากาศเย็นสบาย แต่เหมือนจะมีเมฆฝนลอยมาบ้างละ ก็ภาวนาอย่าตกเลยนะ
ออกมารอรถ coach Stonehenge สักพักก็มา ค่ารถ coach ไปกลับ คนละ 12 ปอนด์
…. แต่ …
คนขับบอก วันนี้หมดรอบวิ่งแล้ว !!!!
เอ้ยยยย …ไม่แจ้งล่วงหน้ากันเลย ในตารางเดินรถบอกมีถึงเย็นนี่นา ซวยละทำไงดีล่ะ !!!??
ในความโชคร้าย ยังมีโชคดีซ่อนอยู่ เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันนี้รถ coach จะหมดเร็ว
เลยมีนักท่องเที่ยวที่มากะขบวนรถไฟเดียวกะเรา เผชิญชะตากรรมเดียวกัน
เราเลยไปถามราคา taxi ที่จอดหน้าสถานี ได้ 40 ปอนด์ ราคานี้รวมไปและรอเรากลับ
ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ
พอรู้ราคาจึง ไปหาผู้ร่วมชะตากรรมมาร่วม share ค่ารถกันเลย
1 คันกำหนดนั่งได้ 5 คนรวมคนขับ ระยะทางจากสถานีรถไฟ ถึง Stonehenge ราว ๆ 15 กิโลเมตร
ตลอด 2 ข้างทางเป็นฟาร์มข้าวสาลี และบาเล่ ถนนหนทางดีมากค่ะ เรากับผู้ร่วมแชร์ค่ารถคุยกันไปตลอดทาง
เป็นสามีภรรยาจากฟิลาเดเฟีย น่ารักและเฟรนลี่มาก
นั่งคุยไปสักพัก ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงทางเข้า Stonehenge แล้ว
หลังจากหาที่จอดรถเรียบร้อย นัดแนะกับพี่คนขับ เราก็เดินไปซื้อตั๋วเข้าชม
คนเยอะมาก ทั้งขับรถมาเอง กับกลุ่มที่ซื้อ 1 day trip โดยรถ coach จอดหลายคันเลย
บัตรเข้าชม คนละ 8 ปอนด์
ทางเข้าชมหลังจากซื้อบัตรแล้ว จะต้องเดินเข้าอุโมงค์เพื่อทะลุไปถึงด้านที่ Stonehenge สถิตย์อยู่
พอออกจากอุโมงค์เราก็จะเจอ ทุ่งหญ้ากว้างงงงงงงงง โดยมีเชือก ล้อมไว้ไม่ให้นักท่องเที่ยวล้ำเข้าไป
สังเกตุว่า รอบนอกหญ้าโดนเหยียบจนแห้งเลย ส่วนรอบในจะเขียวชะอุ่ม
เจ้าถิ่นที่นี่ ไม่ใช่คนหรือใครที่ไหน หากแต่เป็น ” นก ” เยอะมาก
บินมาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ และมาเกาะตาม Stonehenge
น่าแปลกใจตรง บริเวณที่กว้างใหญ่นี้ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีภูเขา เป็นเพียงที่ราบ แต่มีนกมาอาศัย (ที่นี่ไม่มีอาหารนกขายนะ )
มองย้อนกลับไปทางที่เราขับรถมากัน เป็นเส้นทางเดียวที่มาถึงที่นี่
สองข้างทางเป็นฟาร์ม ที่ตอนนี้เก็บเกี่ยวเสร้จไปแล้ว เลยดูโล่ง ๆ เตียน ๆ
อยู่ในที่โล่งๆ อากาศเย็นๆหนาวๆกำลังดี
มาถึงพระเอกของเราละ
Stonehenge
ครั้งแรกที่บอกว่าจะไปดู Stonehenge หลายคนบอก ไม่มีอะไรเลย ไปทำไม งั้น ๆ เฉย ๆ
(หลายคนที่บอกมา ไม่เคยไปเห็นตัวเป็น ๆ นอกจากใน TV)
บางเรื่องก็อธิบายไม่ได้ว่ามันคือความฝันที่ยาวนาน
เคยเห็นแต่ใน TV ใน magazine รู้ว่ามันคือ สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่อยากมาเห็นกะตาตัวเองสักครั้ง
และก็มาถึงจริงดีใจจนบอกไม่ถูก น้ำตาจะไหล
ดูจากรูปข้างบนเหมือนหินธรรมดา ๆ แต่พอมาเทียบ scale กับคน มันมหึมามาก หินกว่า 30 ตัน / ก้อน
สมัยกว่า 2500 ปีก่อนปี คศ. สมัยนั้นคนเราเอาอะไรลากมา และบางก้อนตั้งอยู่บนหินอีกที ใช้วิธีไหนยกกันได้
นี่แหละคือเสน่ห์ของปริศนาที่ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครให้คำตอบได้
กว่าชั่วโมงที่เราเดินไปรอบ ๆ Stonehenge ได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ ความแปลกประหลาด ที่ที่อื่นไม่มี
เท่านี้ก็คือประสบการณ์ที่น่าจดจำมากแล้ว
และก็ถึงเวลาที่ต้องร่ำลากัน ขากลับเราก็ต้องเดินผ่านอุโมงค์เหมือนเดิม
ที่ Stonehenge มีบริการเช่าเครื่องบรรยายในภาษาต่าง ๆ ไว้ด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการรู้ประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้
เท่าที่เห็นจะมีภาษาอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศษ จีน ญี่ปุ่น ขากลับออกจากอุโมงค์ก็มาแขวนคืนดังภาพ
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่า taxi หารกัน 4 คน ตกคนละ 10 ปอนด์ + ค่าบัตรเข้าชม Stonehenge คนละ 8 ปอนด์
= 18 ปอนด์ / คน ถูกกว่าขึ้นรถ coach ตั้ง 2 ปอนด์แน่ะ
รถออกแล้ว ได้เวลาเดินทางเข้าไปเที่ยวในเมือง Salisbury กันต่อแล้วครับ