เกาะนามิ (Namiseom) ตั้งอยู่ที่เมืองชุนชอน (Chuncheon) จังหวัดคังวอนโด (Gangwon-do)
ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออก 63 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาหลีใต้
เกาะนามิมีรูปร่างเหมือนใบไม้ลอยน้ำ เป็นเกาะกลางแม่น้ำฮัน (Han River) ซึ่งเกิดจากการ
สร้างเขื่อนชองพยอง (Cheongpyeong)
เกาะนามิโด่งดังจากซีรีส์เพลงรักในสายลมหนาว (Winter Love Song) ซึ่งใช้เกาะนามีเป็นสถานที่ถ่ายทำ
ในฤดูใบไม้ร่วงเป็นเป็นช่วงเวลาที่เกาะนามิน่าหลงใหลเป็นที่สุดเพราะการเปลี่ยนสีแดงสีเหลือง
ของบรรดาใบไม้บนเกาะนั้น ยิ่งทำให้บรรยากาศบนเกาะนามิโรแมนติกยิ่งขึ้น
การเดินทางไปเกาะนามิด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลาย ๆ คนคิดกัน ซึ่งจริงแล้วมันง่ายแสนง่าย
แถมค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้นนับว่าถูกและใช้เวลาเดินทางไม่นานเลย โดยใช้
รถไฟความเร็วสูง ITX นั้น เป็นรถไฟที่ให้บริการเส้นทางระหว่างโซลไปยังเมืองชุนชอน
เส้นทางที่จะไปยังเมืองคาพยอง (Gapyeong)
ที่ตั้งของเกาะนามิได้ (โดยสามารถเดินทางจากโซลไปถึงชุนชอน จ.คังวอนโด ได้ในเวลาเพียง 73 นาที
ซึ่งรถไฟนั้นวิ่งด้วยความเร็วถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
เราออกเดินทางกันดีกว่าครับ เมื่อครั้งที่ผมไปเกาหลี ผมพักในย่านฮงอิค (Hongik)
เป็นที่ตั้งของ Hongik University
ซึ่งการเดินทางจาก Hongik Station เพื่อไปขึ้นรถไฟ ITX นั้นต้องไปลงที่
สถานีชองยางนี (Cheongnyangni Station)
ตาม application Korea Subway * เลยครับ (จากในรูป app ผมต้องนั่งรถใต้ดินสาย 2
แล้วเปลี่ยนไปขึ้นสาย 1 สีน้ำเงิน ที่สถานี City Hall ปลายทางสถานี Cheongnyangni)
สถานี Cheongnyangni จากทางออกขึ้นมาก็จะเจอห้าง LOTTE ต้อนรับเราเลยครับ
ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าในห้างนี้จะมีสถานีรถไฟจริง ๆ หรอ ก็ลองเข้าไปดู
ตรงลานหน้าห้างตอนนั้นกำลังเอาเสื้อผ้า K2 มาลดราคากันกระหน่ำ
คนเยอะมากเลย (K2 เป็นแบรนด์เสื้อสัญชาติเกาหลีเอง คุณภาพดีครับ)
เข้ามาภายในห้างแล้วครับ ก็เจอกับล้อบบี้ของสถานีรถไฟ ใหญ่มาก มีทั้งเคาเตอร์จำหน่ายตั๋ว
และเครื่องจำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ มี information counter และทางลงชานชาลา
ผมลองไปซื้อตั๋วโดยสารกับเครื่องขายอัตโนมัติแล้ว แต่ต้องยอมแพ้ เพราะเป็นภาษาเกาหลีทั้งนั้นเลย
หลายเครื่องมีแต่ภาษาเกาหลี บางเครื่องเปลี่ยนภาษาได้ แต่ผมหาปุ่มเปลี่ยนภาษาไม่เจอ
สุดท้ายก็ต้องไปเข้าแถวซื้อตั๋วที่หน้าเคาเตอร์เอง ซึ่งก็สะดวกดีครับ
เจ้าหน้าที่ขายตั๋วอธิบายเป็นภาษาอังกฤษได้เข้าใจ
ผมว่าดีกว่าซื้อกับเครื่องแน่ ๆ หากใครไม่แน่ใจว่าจะสื่อสารยังไง
ก็ใช้วิธีเขียนชื่อสถานีแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ก็ได้นะครับ
ได้ตั๋วมาแล้วครับ ราคาเที่ยวละ 4000 won บนตั๋วจะบอกหมายเลขรถ ที่นั่ง หมายเลขชานชาลา
เวลาที่ออก สถานีปลายทาง จากนั้นเราก็เข้าไปรอที่ชานชาลาได้เลย จ
ะมีประกาศจากนายสถานีแต่เป็นภาษาเกาหลีอีกละ
เราสามารถซื้ออาหารและเครื่องดื่มขี้นไปได้นะครับ
และบนรถไฟก็มีบริการขายของขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเหมือนกัน
ใช้เวลาไม่นานบน ITX ยังไม่ทันได้หลับก็มาถึงสถานี Gapyeong เรียบร้อย อากาศดีมากครับ
พอออกมานอกสถานีเราก็ต้องต่อรถเพื่อไปท่าเรือ
โดยที่หน้าสถานีนั้นจะมีทั้งป้ายรถเมล์ และป้ายรถ taxi ไว้บริการ
ถ้าใครจะโดยสารรถเมล์ต้องไปขึ้นตรงข้ามกับสถานีครับ
แต่เพื่อความสะดวกผมแนะว่าขึ้น taxi ไปดีกว่า ราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์ไม่แพงเลย
ประมาณ 9000 won เท่านั้น
รถ taxi มาจอดที่ท่าเรือ จากนั้นเราก็เดินไปซื้อตั๋วเรือไปเกาะนามิกันเลยครับ
ที่นี่เขาเรียกเก๋ไก๋ว่า ENTRY VISA NAMINARA REPUBLIC
ค่าเรือไปกลับคนละ 8000 won ไม่มีกำหนดเวลา จะขึ้นเรือรอบไหนก็ได้
รอแป้บเดียว เรือก็มา ได้เวลาเดินทางไปเกาะนามิกันแล้วครับ ริวิวการเดินทางจาก Seoul ไปเกาะนามิ
โดยรถไฟด้วยตัวเองก็จบเพียงเท่านี้
ตอนหน้าจะพาเที่ยวเกาะนามิ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีครับ
หมายเหตุ : การเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน เพื่อไปขึ้นรถไฟ ITX มีมากกว่า 1 วิธีนะครับ
รีวิวนี้ ผมเล่าจากที่ผมได้เดินทางเอง อาจแตกต่างไปจากวิธีของนักท่องเที่ยวอื่น ๆ บ้างครับ
________________________________________________
SUBWAY KOREA เป็น application สำหรับการเดินทางในเกาหลีใต้ ใช้ได้ทั้งใน
Seoul , Busan , Daegu , Daejeon และ Gwangju
การใช้งานก็ง่ายเพียงแค่เลือกสถานีต้นทาง – ปลายทาง ตัว app จะคำนวณค่าใช้จ่าย
เส้นทางทางที่ใกล้ที่สุดให้ครับ
ที่สำคัญเป็น FREE application
แนะนำให้ load เก็บในมือถือ / tablet ไว้เลย